Sunday, November 21, 2010

สาระเรื่องน้ำ

สาระน่ารู้เรื่องน้ำที่คุณอาจจะยังไม่รู้
     สวัสดีครับวันนี้เรากลับมาเจอกันอีกในเทศกาลลอบกระทงพอดี คิดว่าทุกท่านคงจะมีความสุขในวันลอยกระทงนะครับ คราวทีแล้วได้เขียนเรื่องกาแฟมามากพอสมควรแล้ว ก็เลยคิดว่าวันนี้น่าจะหาเรื่องอยากอื่นมาเขียนเล่าบ้าง พอดีตรงกับเทศกาลลอยกระทงเกี่ยวกับเรื่องน้ำๆ พอดีก็คิดว่าน่าจะเขียนเกี่ยวอะไรเกี่ยวเกร็ดเล็กๆน้อยๆจากเรื่องน้ำนะครับคราวนี้
    ถ้าเราจะมาพูด และนึกถึงเรื่องของน้ำละก็เราก็จะเคยได้ยินกันว่า น้ำเป็นส่วนประกอบของหลายที่มีถึง 2 ใน 3 ของร่างกาย ก็ยังไม่มากที่จะทำให้ร่างกายของเราเกิดความตื่นตัวในการดื่มมีมากขึ้น เป็นประวัติการณ์ ณ ปัจจุบัน เพราะทุกวันนี้ได้มีองค์ความรู้ใหม่ได้ทำให้น้ำกลายเป็นยาขนานเอก อันเป็นในสิ่งมหัศจรรย์ต่อสุขภาพที่ทั่วโลกยอมรับ และให้ความสนใจเป็นอย่างสูง ไม่ว่าคุณจะดื่มน้ำจากคูลเลอร์ไหน หรือเป็นน้ำที่เกิดจากการสร้างสรรค์อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่เท่ากับการได้รับข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับน้ำที่ท่านยังไม่เคยได้รับรู้ และอาจะไม่เคยได้รู้มาด้วยซ้ำ เรามาลองดูสิว่ามีสาระอะไรที่เราจะได้สาระความรู้จากน้ำบ้าง
     5 พลังจากน้ำในร่างกายเรา น้ำเป็นส่วนประกอบของเซลล์ต่างของร่างกายเรา เป็นตัวละลายสารอาหาร และชำระล้างของในร่างกายเรา ช่วยในการในกำลังลำเลียงสารอาหาร มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญอาหารเพื่อเสริมสร้างพลังงาน เป็นสารหล่อลื่นในสวนของข้อต่อต่างๆ
และยังช่วยในการควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย
     ผู้ชาย และผู้หญิงจะมีส่วนประกอบของน้ำที่แตกต่างกัน ผู้ชายจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 60 ของร่างกาย ส่วนของผู้หญิงจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 50 ของร่างกายการที่ผู้หญิงมีน้ำเป็นส่วนประกอบน้อยกว่าผู้ชาย ก็เนื่องจากว่าโดยโครงสร้างของร่างกายของผู้หญิงมีเซลล์ไขมันมากกว่าชาย ซึ่งเซลล์ไขมันจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่เพียงแค่ร้อยละ 10-15 เท่านั้น ในขณะที่เซลล์กล้ามเนื้อมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 70-75 เลยทีเดียว
       น้ำที่เราดื่มจะลดน้ำหนักของเราได้จริงเหรอ ได้มีการศึกษาแล้วพบว่า การที่เรารับประทานอาหารทีมีน้ำเยอะๆ ช่วยในการลดน้ำหนักเราได้ดีกว่ากว่า การที่เราเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ การที่เราเลือกรับประทานอาหารทีมีน้ำเยอะจะช่วยในการลดน้ำหนักลงได้ เนื่องเพราะว่ามันจะทำให้เรามีความรู้สึกอิ่มนานขึ้น อาหารทีมีน้ำเยอะถึงจะมีปริมาณมาก แต่ก็ให้พลังงานที่ต่ำ อาหารจำพวกทีมีน้ำเยอะได้แก่ พวกผัก และผลไม้(ผัก และผลไม้มีน้ำเป็นเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 80-90 (ปลา ไข่( มีน้ำอยู่ประมาณร้อย70) รวมถึงซุปใส แกงจืด เกาเหลา และก๋วยเตี๋ยวน้ำ จากข้อมูลจากวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐ ยังได้ยืนยันว่า น้ำเย็นในระดับอุณหภูมิ 15-22 องศาเซลเซียส ช่วยเติมน้ำในร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่น เพราะว่าร่างกายของเราสามารถดูดซึมได้ดีกว่า การดื่มน้ำในระดับอุณหภูมินี้ยังช่วยทำให่ร่างกายของเราสดชื่นขึ้น และยังออกกำลังกายได้นานขึ้นอีกด้วย นอกจากจะไม่เป็นความจริงในแง่ที่ว่าน้ำเย็นเป็นตัวเสริมปัจจัยการเป็นมะเร็งแล้ว ช้ออีกอย่างคือยังเป็นตัวช่วยเสริมร่างกายทำให้เผาผลาญพลังงานได้ถึง 8 แคลอรี่ต่อแก้วด้วย
     ดื่มน้ำใน 3 ช่วงของการออกกำลังกาย ปริมาณน้ำที่จะแนะนำในระหว่างการออกกำลังกายคือ ดื่มน้ำ 400-600 มิลลิลิตร ก่อนการออกกำลัง 2ชั่วโมง ดื่มน้ำ 150-350 มิลลิลิตรทุก เวลา 15-20 นาที ในขณะกำลังออกกำลังกาย และควรดื่มน้ำตามกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัดตามเวลาที่ได้กำหนด อย่ารอให้รู้สึกว่ากระหายน้ำ
     ดื่มน้ำเพื่อที่จะทำให้ไตเราแข็งแรง การที่เราดื่มน้ำอย่างถูกต้องตามวิธี จะช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิต การทำงานของหัวใจปกติ และมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น และในขณะเดียวกันการขับถ่าย ขชัดของเสียก็จะทำงานได้ดี ที่สำคัญยังทำให้ใบหน้าของเรามีความชุ่มชื่น มีเลือดฝาด และไม่มีอาการปวดหลัง หรือบั้นเอว เพราะว่ามีสุขภาพไตที่แข็งแรงดี มีหลักการง่ายในการดื่มน้ำในคำนวณปริมาณในแต่ละวันก็คือ จำนวนของน้ำหนักคูณด้วย 30 จะได้ปริมาณ CC หรือมิลลิลิตรของน้ำ อย่างถ้าเรามีน้ำหนักตัวประมาณ 60 กิโลกรัม เราจะต้องดื่มน้ำ 1,800 CC หรือ 1.8 ลิตร
     ดื่มน้ำอุ่นยังช่วยในการผ่อนคลาย และเสริมสร้างความแข็งแรงให้อสุจิได้ ควรทีเราจะดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยในการกระตุ่นลำไส้ ช่วยให้ลำไส้บีบตัวดี เช่นเรามีอาการ ท้องเสีย เจ็บคอ เป็นหวัด และใครที่ไม่อยากแก่เร็วควรที่จะดื่มน้ำมากๆ เพื่อที่จะทำให้ผิวหนังของเรามีความชุ่มชื่น เนื่องจากผิใฃวที่แก่เกิดจากการขาดน้ำ การดื่มน้ำมากๆ ยังทำให้สมองเราปลอดโปร่ง แต่ถ้าดื่มน้ำน้อย โดยเฉพาะผู้ชายอาจจะทำให้น้ำไปหล่อเลี้ยงอสุจิไม่พอ เป็นเหตุให้อสุจิไม่แข็ง และทำให้เซ็กเสื่อมได้  
     อาการปากแห้ง และการเสียชีวิต สภาวะร่างกายขาดน้ำอาจจะทำให้เกิดอาการต่างๆ มากมายตั้งแต่เบาๆไปจนถึงขั้นอันตราย เช่นการกระหายน้ำ ปากแห้ง หอบเหนื่อย หน้ามืด ตาลาย วิงเวียนศีรษะ นอกจากนี้ความร้อนในร่างกายที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้เราเกิดอาการ เช่น เป็นตะคริว หมดแรง หน้ามืด เป็นลม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้อาการรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้
    ดื่มน้ำ หญิง 9 ชาย 12 ปกติแล้วผู้หญิงต้องการน้ำวันละประมาณ 11 แก้ว และผู้ชายต้องการดื่มน้ำวันละประมาณ 15 แก้ว  ซึ่งปริมาณที่กล่าวมาดังกล่าวเป็นปริมาณที่ได้รับจากอาหาร และเครื่องดื่ม โดยทั่วไปแล้วเราจะได้รับน้ำจากการได้บริโภคอาหารประมาณร้อยละ 20 ดังนั้นผู้หญิงก็ควรที่จะดื่มน้ำวันละประมาณ 9 แก้ว และส่วนผู้ชายควรที่จะดื่มน้ำวันละ 12 แก้ว เอาละครับก็คงจะพอได้อะไรนะครับสำหรับเรื่องการดื่มน้ำที่จะทำให้ได้ปรับปรุงร่างกายของเราได้ดีขึ้นมานะครับไว้มาเจอกันครั้งหน้านะครับยังมีต่อเรื่องน้ำอีกครับ 

No comments:

Post a Comment